วันอังคารที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2555
บ้านหลังแรกหักภาษีไม่คึก! ปชป.ซัดนโยบายสับสน
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล งานบ้านและคอนโดเงียบ คนเมินมาตรการซื้อบ้านหักภาษี ด้าน ครม.เงา ซัดรัฐเปลี่ยนนโยบายไป ๆ มา ๆ ทำคนสับสน ชี้ปล่อยกู้ดอกเบี้ย 0% 3 ปี ให้บ้านหลังไม่เกินล้าน บ้านใน กทม.-คนส่วนใหญ่ไม่ได้ประโยชน์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 25 ซึ่งจัดไปเมื่อวันที่ 29 กันยายน-2 ตุลาคมที่ผ่านมา บรรยากาศกลับไม่คึกคักดังที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ โดยก่อนหน้านี้ คาดการณ์กันว่า จะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 1 แสนคน และมียอดขายทะลุ 3 พันล้านบาท ซึ่งได้จากอานิสงส์ของมาตรการหัดภาษีบ้านหลังแรก ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทที่รัฐบาลเข็นออกมาในช่วงก่อนการจัดงานพอดี โดยนายสุกิจ ตรัยวนพงศ์ ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 25 กล่าวว่า ตลอด 4 วันของการจัดงานมียอดจองในงานประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งผิดจากเป้าที่ตั้งไว้ถึง 3,000 ล้านบาท ขณะที่มีผู้เข้าชมงานเพียง 80,000 คน จากเดิมที่คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานถึง 100,000 คน และมีผู้ขอสินเชื่อจากธนาคารเพียง 1 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ 1.2 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่า สาเหตุที่บรรยากาศการซื้อบ้านไม่คึกคักเท่าที่ควร เป็นเพราะมาตรการบ้านหลังแรกที่ให้หักภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไม่จูงใจ ประชาชนเท่าไหร่นัก และประชาชนส่วนใหญ่ยังรอให้รัฐบาลออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ย 0% ผนวกกับวิกฤตการณ์เศรษฐกิจในทวีปยุโรป และสถานการณ์น้ำท่วมภายในประเทศ ส่งผลให้คนชะลอการซื้อ ขณะที่ผู้เข้าชมงานหลายคนก็ออกมาแสดงความคิดเห็นตรงกันว่า มาตรการบ้านหลังแรกที่หักภาษียังไม่จูงใจ และไม่ได้เป็นส่วนพิจารณาในการตัดสินใจว่าจะซื้อบ้านหรือไม่ อย่างเช่น นางสาวศุภวาภา อิทธิไกวัล พนักงานบริษัทเอกชน วัย 29 ปี ที่กล่าวว่า เตรียมจะซื้อคอนโดฯ ในงบประมาณ 2 ล้านบาทในเร็ว ๆ นี้ แต่มาตรการหักภาษีที่รัฐบาลออกมาก็ไม่ได้เป็นแรงจูงใจให้อยากซื้อเร็วขึ้น ยกเว้นแต่จะมีมาตรการดอกเบี้ย 0% ออกมา เช่นเดียวกับนายจรัสพันธุ์ ปัญญาวุฒิวิทย พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่จองคอนโดฯ ราคา 1.6 ล้านบาทภายในงาน กล่าวว่า มาตรการหักภาษีไม่ได้จูงใจให้ซื้อบ้านหลังแรก เพราะรายได้ต่อเดือนที่มียังไม่ถึงขั้นต้องเสียภาษี แต่ที่ตัดสินใจจองคอนโดฯ ในงานนี้ เพราะอยากมีคอนโดฯ เป็นของตัวเอง ไม่ได้เกี่ยวกับนโยบายของรัฐ อย่าง ไรก็ตาม ภายหลังที่รัฐบาลออกมาตรการหักภาษีให้กับผู้ซื้อบ้านหลังแรก จนถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้คนชั้นล่างจนถึงคนชั้นกลางเท่าที่ควร ทำให้เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ปล่อยกู้ให้กับผู้ที่ยังไม่เคยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในวงเงินรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0% เป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้ผู้ได้รับประโยชน์จากโครงการบ้านหลังแรกเพิ่มขึ้น ซึ่งการแก้ไขนโยบายดังกล่าว ก็ทำให้ ครม.เงา โดยพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงประเด็นทันที โดยนายสรรเสริญ สมะลาภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเงา กล่าวว่า การที่รัฐบาลเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของโครงการบ้านหลังแรกแต่ละครั้ง ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะมาตรการล่าสุดที่จะให้ ธอส.ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 3 ปี ให้กับบ้านที่มีมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท ทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านในราคา 1-3 ล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 60% ของจำนวนบ้านทั้งหมดไม่ได้รับความช่วยเหลือ จึงอยากให้รัฐบาลขยายสิทธิ์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม และ ครม.ควรจะอนุมัติเรื่องฟรีค่าโอน และค่าจำนอง ดังที่พรรคเพื่อไทยเคยหาเสียงเอาไว้ด้วย ด้าน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษก ครม.เงา กล่าวว่า นโยบายปล่อยกู้บ้านหลังแรกโดยให้ดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 3 ปี คล้ายกับที่รัฐบาลประชาธิปัตย์ทำไว้ แต่การให้สิทธิ์เฉพาะบ้านที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท จะไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่จะซื้อบ้านใน กทม.และปริมณฑล เนื่องจากราคาบ้านโดยเฉลี่ยสูงกว่า 1 ล้านบาทแล้ว อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก บุญทรง ย้ำ! บ้านหลังแรกยื่น ธอส. มีงบ 2 หมื่นล้าน
บุญทรงย้ำบ้านหลังแรกยื่นธอส.มีงบ2หมื่นล. (ไอเอ็นเอ็น) คลัง ย้ำ คอนโดฯ ได้สิทธิประโยชน์ดอกเบี้ย 0 % 3 ปี พร้อมเตือนผู้กู้ซื้อบ้านโครงการฯ รีไฟแนนซ์ก่อน 7 ปี โดนดอกเบี้ยย้อนหลังตามเกณฑ์ ธอส. ย้ำจัดงานมหกรรมรถคันแรก 11 ต.ค. นี้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แจงรายละเอียดโครงการบ้านหลังแรก สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยว่า คลังได้ให้ธนาคารอาคารสังเคราะห์เตรียมวงเงินไว้ 20,000 ล้านบาทเพื่อปล่อยกู้ให้กับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกในราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ซึ่งบ้านหลังแรก หมายรวมถึงอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้เป็นที่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นบ้านที่ปลูกอาศัยเอง บ้านมือสองหรืออาคารชุด คอนโดมิเนียม ที่มีมูลค่าไม่เกิน 1 ล้านบาท จะได้สิทธิพิเศษกู้ 0 % เป็นเวลา 3 ปี ส่วนปีถัดไปคิดอัตราดอกเบี้ย MRR - 0.5 % ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนี้ จะถูกกว่าการปล่อยกู้สินเชื่อบ้านของธนาคารพาณิชย์ทั่วไป อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ซื้อบ้านในโครงการนี้หากรีไฟแนนซ์ก่อน 7 ปี จะต้องเสียอัตราดอกเบี้ยย้อนหลัง ที่ได้สิทธิ์ไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ของธนาคารอาคารสงเคราะห์กำหนด นอกจากนี้ นายบุญทรง ย้ำถึงการจัดงานมหกรรมรถยนต์คันแรกที่ได้สิทธิ์คืนภาษี 100,000 บาท ที่จัดงานในวันที่ 11-14 ต.ค. 2554 ที่ไบแทคบางนา จะมีรถยนต์ค่ายต่างๆ มาร่วมออกบูธ และจะมีผู้สนใจเข้าร่วมชมงานและใช้สิทธิ์จำนวนมาก [4 ตุลาคม] ครม.ไฟเขียว บ้านหลังแรก ธอส. ปลอดดอกเบี้ย 3 ปี
ครม.อนุมัติ ธอส.เดินหน้าสินเชื่อ บ้านหลังแรก ราคาไม่เกินล้าน ดอกเบี้ย 0% นาน 3 ปี เปิดกว้างให้ทั้งบ้านใหม่-มือสอง แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขณะนี้นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รมว.คลัง และนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง ได้ข้อสรุปตรงกันแล้วว่าจะให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ปล่อยกู้ให้กับผู้ที่ยังไม่เคยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในวงเงินรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 0% เป็นเวลา 3 ปี ทั้งนี้ ผู้กู้สามารถนำไปซื้อที่อยู่อาศัยได้ทั้งประเภทบ้านใหม่ บ้านมือสอง บ้านสร้างเอง และที่อยู่อาศัยที่เป็นสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) ของ ธอส. ภายใต้วงเงินรวม 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ ธอส.ปีละ 800 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 3 ปี รวม 2,400 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการนำเสนอแพ็กเกจมาตรการบ้านหลังแรกให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาในสัปดาห์หน้า ขณะเดียวกัน ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 4 ตุลาคมนี้ กระทรวงการคลังจะยังไม่เสนอแพ็กเกจมาตรการบ้านหลังแรก ซึ่งเป็นมาตรการเสริมเพื่อช่วยผู้มีรายได้น้อย ให้ ครม.พิจารณา เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะมีการปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนที่จัดเก็บอยู่ 2% และค่าจดจำนองที่จัดเก็บอยู่ 1% ให้กับผู้ซื้อบ้านหลังแรกด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุม ครม.วันนี้ (4 ตุลาคม) เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดำเนินโครงการสินเชื่อบ้านหลังแรก ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 3 ปี วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท รมช.คลัง กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าวนี้ให้สิทธิ์ได้ทั้งบ้านใหม่ บ้านสร้างบนที่ดินของตัวเอง และบ้านมือสอง ที่เป็นสินทรัพย์รอการขายของ ธอส.เท่านั้น ซึ่งขณะนี้ ธอส.มีบ้านมือสองที่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ทันทีกว่า 10,000 ยูนิต ราคาเฉลี่ยยูนิตละ 500,000-600,000 บาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้หลังจากอนุมัติแล้ว 7 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม เป็นต้นไป และให้โอนกรรมสิทธิ์ได้จนถึงสิ้นปี 2555 อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก [28 กันยายน] เปิดแพ็คเกจบ้านหลังแรก สำหรับคนรายได้น้อยแล้ว เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ครอบครัวข่าว 3 ครม. เปิดแพ็คเกจใหม่ บ้านสำหรับคนรายได้น้อย วงเงินไม่เกิน 1 ล้าน ดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 3 ปี ส่วนแพ็คเกจบ้านหลังละ 2 ล้าน รอเสนออีกสัปดาห์หน้า วานนี้ (27 กันยายน) คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการบ้านหลังแรกแล้ว ด้วยแพ็คเกจใหม่ "กำหนดวงเงินไม่เกิน 1 ล้าน ดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 3 ปี" ส่วนบ้านราคาหลังละ 2 ล้านบาท ทาง ครม.ให้กระทรวงการคลังกลับไปดูรายละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ โครงการบ้านหลังแรกขณะนี้มี 2 แพ็คเกจให้เลือก ได้แก่... แพ็คเกจที่ 1 สำหรับผู้มีรายได้น้อย บ้านราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 3 ปี แพ็คเกจที่ 2 สำหรับผู้มีรายได้มาก บ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ซึ่งสามารถหักเงินหลังจากคำนวณภาษีเสร็จแล้ว ในระยะเวลา 5 ปี ตกปีละไม่เกิน 100,000 บาท ขณะที่โครงการรถยนต์คันแรก ยังไม่มีข้อเสนอเข้าสู่ที่ประชุม เนื่องจากยังต้องปรับปรุงรายละเอียดให้รอบคอบและครอบคลุมกว่านี้ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เปิดเผยหลังจากการประชุม ครม.ว่า ทางกระทรวงการคลังได้เสนอมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยให้ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ปล่อยกู้ให้กับผู้มีรายได้ระดับกลาง และต่ำลงมา มูลค่าบ้านไม่เกินหลังละ 1 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ย 0% เป็นเวลา 3 ปี ทั้งนี้ทางรัฐบาลจะชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้ 3 ใน 4 ของดอกเบี้ยทั้งหมด หรือประมาณ 300 ล้านบาท รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวต่ออีกว่า ถ้าต้องการจะขยายเพิ่มเป็นวงเงิน 2 ล้านบาท ต้องรอให้ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดูรายละเอียดเรื่องงบประมาณเพิ่มเติมก่อน ว่าจะกระทบต่องบประมาณที่ต้องชดเชยมากน้อยเพียงใด เนื่องจากทางรัฐบาลจะต้องชดเชยให้กับทาง ธอส. ด้วย จึงต้องนำเรื่องกลับมาพิจารณาอีกครั้งก่อนที่จะนำเสนอ ครม. อีกครั้งในสัปดาห์หน้า นายวิรุฬ ยังกล่าวอีกว่า จากมาตรการเดิมที่ให้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษีได้ 10% หรือไม่เกิน 500,000 บาท ของมูลค่าบ้านไม่เกิน 5 ล้านบาท ขณะนี้ทางที่ประชุมมีมติให้ปรับปรุงใหม่ เป็นหักเงินโดยตรงจากภาษีที่ต้องเสีย ซึ่งเป็นการหักหลังจากที่คำนวณภาษีเสร็จแล้ว ในระยะเวลา 5 ปี ตกปีละไม่เกิน 100,000 บาท ทางด้าน น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการบ้านหลังแรกนั้น อาจจะมีผลกระทบต่อการบริหารการจัดเก็บภาษีอากร อีก 5 ปี วงเงินภาษีรวมประมาณ 12,000 ล้านบาท หรือปีละประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งมาตรการดังกล่าว นอกจากจะเป็นการบรรเทาภาระภาษีให้ประชาชนที่ต้องการมีบ้านหลังแรกแล้ว ยังมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจรวมทั้งหมด ในการส่งเสริมให้ผู้มีเงินได้เข้าสู่ระบบภาษีด้วย ขณะเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงประเด็นที่ฝ่ายค้านเตรียมยืนที่จะถอดถอน ในมาตรการคืนภาษีบ้านหลังแรกว่า นโยบายบ้านหลังแรก เป็นนโยบายที่ต้องการให้เกิดประโยชน์กับผู้ที่ซื้อบ้านจริง ๆ ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการ และไม่คิดว่าโครงการดังกล่าวจะให้ประโยชน์กับใครคนใดคนหนึ่ง เมื่อดูรายละเอียดอย่างชัดเจนจะเห็นว่า โครงการนี้มีความเสมอภาค และประชาชนเป็นผู้ที่ได้รับภาษีคืน ไม่ใช่ผู้ขาย [25 กันยายน] ปชป. ชี้นโยบายลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรก พท. อาจทำไม่ได้ โฆษกคณะรัฐมนตรีเงา พรรคประชาธิปัตย์ ชี้นโยบายลดภาษีบ้านหลังแรก รัฐบาลคำนวณสูตรผิดพลาด อาจไม่สามารถทำได้จริง แนะนำสูตรเดิมของพรรคมาใช้ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษกคณะรัฐมนตรีเงา กล่าวถึงโครงการลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรก ว่า รัฐบาลคำนวณสูตรผิดพลาดจนไม่ได้รับประโยชน์ และอาจไม่สามารถดำเนินโครงการนี้ได้ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์อยากเสนอให้รัฐบาล นำโครงการบ้านหลังแรกสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาดำเนินการอีกครั้ง ที่เปิดให้ประชาชนผู้ผ่านธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ดอกเบี้ยร้อยละ 0 เป็นเวลา 2 ปี เพราะแตกต่างจากนโยบายใหม่ของรัฐบาล ซึ่งนโยบายเดิมสามารถซื้อบ้านมือสอง หรือปลูกบ้านในที่ดินของตนเองได้ ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวสรุปการทำงานของพรรคเพื่อไทย 1 เดือน ว่า นอกจากนายกรัฐมนตรี จะลืมบทแก้ไขไม่แก้แค้นแล้ว กลับไม่สนใจ หรือแคร์สังคม ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้น นำไปสู่ความขัดแย้งมากขึ้น พร้อมขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี หันมาสนใจนโยบายกับแผนราชการแผ่นดิน ที่ได้เคยสัญญาไว้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่คำนึงถึงแต่เรื่องการนำแฟชั่น [21 กันยายน] เปิดหลักเกณฑ์ บ้านหลังแรก เงินเดือนต่ำกว่า 2 หมื่น หมดสิทธิ์ โครงการบ้านหลังแรกเริ่ม 22 ก.ย.นี้ คนเงินเดือนต่ำกว่า 2 หมื่น หมดสิทธิ์ ภาคอสังหาฯ ชี้มาตรการนี้ช่วยคนไม่กี่คน ยิ่งรวยยิ่งได้ประโยชน์ วานนี้ (20 กันยายน) คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อช่วยเหลือให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง หรือโครงการบ้านหลังแรก ตามที่กระทรวงการคลังได้เสนอ โดยนำค่าใช้จ่ายในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ พร้อมที่ดิน หรืออาคารห้องชุดที่เป็นที่อยู่อาศัย มาหักลดหย่อนภาษีตามจำนนวนที่จ่ายจริง ในอัตราไม่เกิน 10 % ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท โดยให้ทยอยหักภาษี ในจำนวนปีละเท่า ๆ กัน เป็นเวลา 5 ปี ซึ่งโครงการดังกล่าวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 22 กันยายนนี้ เป็นต้นไป สำหรับหลักเกณฑ์โครงการบ้านหลังแรก มีดังต่อไปนี้ 1. ผู้มีเงินเดือน 20,000 บาทขึ้นไป 2. ต้องเป็นบ้านใหม่ หรือคอนโดมิเนียมใหม่ ราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ไม่นับรวมที่อยู่อาศัยสร้างเอง หรือบ้านมือสอง 3. ให้นำค่าใช้จ่ายที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์ มาหักลดหย่อนภาษีได้ในอัตราไม่เกินร้อยละ 10 ของมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท 4. ผู้มีเงินได้มีสิทธิยกเว้นภาษีเป็นจำนวนเท่า ๆ กันในแต่ละปีเป็นเวลา 5 ปีภาษีต่อเนื่องกัน ตามจำนวนที่จ่ายจริง 5. การยกเว้นภาษีจะใช้วิธีการหักค่าลดหย่อน ซึ่งผู้มีเงินได้สามารถเลือกใช้สิทธิ์ครั้งแรกสำหรับเงินได้ในปีที่ได้โอนกรรมสิทธิ์หรือปีถัดไปก็ได้ โดยสามารถหักเป็นค่าลดหย่อนได้ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 5 ปี 6. ต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ให้แล้วเสร็จ ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 7. ต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยมาก่อน 8. ต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่วันที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์นั้นต้องไม่เคยผ่านการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์มาก่อนไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ทั้งนี้ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่ามาตรการบ้านหลังแรกในครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำตามสัญญาที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงไว้ และยืนยันว่าประชาชนทุกคนได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเท่ากันหมดถ้าอยู่ในระบบภาษี ส่วนผู้ที่มีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์เสียภาษี หรือเงินเดือนน้อยกว่า 20,000 บาท ก็สามารถขอใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีในปีถัดไปได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายเพื่อคำนวณภาษีในปี 55 แต่อย่างใด รมช.คลัง ยังกล่าวอีกว่า มาตรการนี้เป็นมาตรการที่ช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยและยังไม่เคยมีบ้านหรือมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน และยืนยันว่าไม่ได้ช่วยเหลือภาคธุรกิจอสังหาริมทรัย์ เพราะถ้าทางรัฐบาลต้องการช่วยเหลือจริงจะไม่กำหนดวงเงินของบ้านหลังละไม่เกิน 5 ล้านบาทอย่างแน่นอน ภาคอสังหาฯ ชี้ บ้านหลังแรก ยิ่งรวยยิ่งได้ประโยชน์ นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึงมาตรการลดภาษีบ้านหลังแรกว่า มาตรการนี้ไม่ได้ส่งผลต่อตลาดการซื้อ-ขายบ้านหรือคอนโดมิเนียมมากนัก เพียงแต่จะช่วยให้ผู้บริโภคที่ชะลอการซื้อบ้านก่อนหน้านี้ ตัดสินใจซื้อเร็วขึ้น เพราะได้ทราบรายละเอียดของโครงการแล้ว ซึ่งในส่วนนี้คนที่ได้ประโยชน์จะเป็นคนรายได้สูงตามฐานภาษีของแต่ละคน ถ้ารายได้ต่ำเมื่อคำนวณภาษีบุคคลธรรมดา และหักค่าลดหย่อนต่าง ๆ แล้ว โดยปกติก็ไม่ต้องเสียภาษีอยู่ดี ขณะที่ นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวสอดคล้องกันว่า มาตรการบ้านหลังแรกของรัฐบาลชุดนี้ มีผู้ได้รับประโยชน์ไม่มากนัก ซึ่งจากข้อมูลกลุ่มลูกค้าที่ซื้อบ้านหลังแรกที่แท้จริงนั้น ส่วนใหญ่ซื้อราคาเฉลี่ยประมาณ 1.5 ล้านบาท และผู้ซื้อส่วนใหญ่มีรายได้ประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน ดังนั้น จึงหักลดหย่อนได้น้อยมาก เพราะเมื่อนำค่าใช้จ่ายมาหักรายได้ต่อปีแล้วไม่เกิน 150,000 บาท ก็ไม่จำเป็นต้องเสียภาษีอยู่แล้ว สำหรับคนที่จะได้รับประโยชน์จากมาตรดังกล่าวนั้น นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ต้องเป็นคนที่มีรายได้สุทธิเกิน 150,000 บาทต่อปี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฐานภาษีที่จ่ายด้วย หากรายได้สุทธิอยู่ที่ 150,000-500,000 บาท หรือเฉลี่ยรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 50,000 บาท จะเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตรา 10% ดังนั้นเมื่อรัฐบาลให้ลดหย่อน 10% ของราคาบ้าน หากบ้านราคา 2 ล้านบาท ก็จะลดหย่อนได้ 200,000 บาท ในระยะเวลา 5 ปี หรือเท่ากับปีละ 40,000 บาท ซึ่งเมื่อหักลดหย่อนภาษีบุคคลที่เสียอยู่ ก็เท่ากับว่าได้ลดภาษีประมาณ 4,000 บาทต่อปีเท่านั้น หรือหากซื้อบ้านราคา 5 ล้านบาท เท่ากับนำมาหักลดหย่อนปีละ 100,000 บาท ซึ่งคนระดับนี้จะต้องมีรายได้สูงปีละประมาณ 4 ล้านบาทขึ้นไป และต้องจ่ายภาษีปีละประมาณ 37% ของเงินได้พึงประเมิน ก็เท่ากับว่าหักภาษีได้แค่ 37,000 บาท นอกจากนี้ นายอิสระ ยังบอกด้วยว่า มาตรการที่ช่วยคนซื้อบ้านหลังแรกได้อย่างแท้จริง คือเรื่องอัตราดอกเบี้ย 0% ซึ่งเท่ากับว่ามาตรการของรัฐบาลชุดก่อนดีกว่า เพราะช่วยคนได้เป็นวงกว้างมากกว่า และเป็นการช่วยคนที่ควรช่วย เพราะคนรายได้สูงนั้นน่าจะมีบ้านหลังแรกกันไปหมดแล้ว ทางด้านนายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า การใช้สิทธิยกเว้นภาษีดังกล่าว จะมีผลกระทบต่อการบริหารการจัดเก็บภาษีอากร ประมาณ 1,700 ล้านบาท แต่ผลของมาตรการดังกล่าวยังทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย [20 กันยายน] ครม.ไฟเขียว บ้านหลังแรก ลดภาษี 10% มติ ครม.คืนภาษีบ้านหลังแรก เฉพาะบ้านมือหนึ่งไม่เกิน 5 ล้าน ทยอยคืนภาษีให้ในระยะเวลา 5 ปี ปีละไม่เกิน 100,000 คาด เสียรายได้ 1,700 ล้านบาทต่อปี วันนี้ (20 กันยายน 2554) นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมได้มีมติในการอนุมัติโครงการบ้านหลังแรก โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน นี้ ถึงสิ้นปี 2555 ซึ่งรายละเอียดจะเป็นการคืนภาษีให้กับผู้ซื้อบ้านหลังแรก เฉพาะเป็นบ้านใหม่มือ 1 เท่านั้น ในราคาไม่เกิน 5,000,000 บาท และผู้ที่มีสิทธิ์จะต้องเป็นผู้ที่เสียภาษี โดยจะมีการทยอยคืนภาษีให้ในระยะเวลา 5 ปี วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งจะมีการทยอยจ่ายคืนให้ปีละไม่เกิน 100,000 บาท อย่างไรก็ตาม ทางกรมสรรพากร คาดว่า จากการดำเนินโครงการดังกล่าว จะทำให้ทางกรม สูญเสียรายได้อยู่ประมาณ 1,700 ล้านบาท ด้าน นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เงื่อนไขหลักและกฎเกณฑ์ที่นำเสนอเป็นบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ผู้ซื้อบ้านหลังแรกสามารถนำไปขอลดหย่อนภาษีได้ ส่วนกรณีธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ยังไม่ชัดเจน จะสนับสนุนดอกเบี้ยบ้านหลังแรก 0% หรือไม่นั้น โดยข้อเท็จจริงแล้ว ทางกระทรวงการคลังจะไม่เอานโยบายดอกเบี้ยมาใช้ แต่สถาบันทางการเงินทุกแห่งที่เป็นของรัฐและเอกชน ก็สามารถที่จะนำนโยบายดอกเบี้ย 0% มาใช้ในทางการตลาด เพื่อจูงใจผู้ซื้อบ้านหลังแรกให้ได้รับสิทธิประโยชน์ได้ อย่างไรก็ตาม หากมาตรการดังกล่าวผ่านการเห็นชอบและอนุมัติในหลักการแล้ว ก็จะเริ่มดำเนินการทันที รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังเปิดเผยถึงความคืบหน้ามาตรการคืนเงินรถคันแรกไม่เกิน 1 แสนบาทว่า เมื่อวานนี้ (19 กันยายน) ได้มอบหมายให้กรมสรรพสามิต ไปดำเนินการตรวจสอบและประมวลผลของมาตรการนี้ หลังเริ่มดำเนินการไปเมื่อวันที่ 16 กันยายน ว่า มีประชาชนเคลื่อนไหวให้ความสนใจมาตรการรัฐบาลมากน้อยเพียงใด และพบปัญหาอุปสรรค ข้อขัดข้องใดบ้างในทางเอกสาร จึงอยู่ในระหว่างรอทางกรมสรรพสามิตรายงานผลกลับมา ส่วนการกำหนดเงื่อนไขเครื่องยนต์ไม่เกิน 1,500 ซีซี เข้าร่วมโครงการรถคันแรก ส่งผลให้มีผู้จำหน่ายรถยนต์หลายแบรนด์ดัง อาทิ ฟอร์ด จีเอ็ม รถจากมาเลย์ ฯลฯ ออกมาขอให้เพิ่มจำนวนซีซีมากกว่า 1,500 ซีซี มีโอกาสเข้าร่วมโครงการนั้น ในขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการจากผู้ประกอบการ มีแต่การแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อมวลชน แต่ทั้งนี้หากจะทำหนังสืออย่างเป็นทางการเสนอมายังกระทรวงการคลัง ก็พร้อมที่จะรับฟังเหตุผล เพราะเดิมทีทางกระทรวงการคลังมองโครงการรถคันแรกตามเจตนารมณ์เดิม ก็คือ รถประหยัดพลังงาน หรือ อีโคคาร์ ก่อนที่จะมีการแสดงความคิดเห็นออกมา อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ได้ให้กรมสรรพสามิตไปประมวลผลด้วย [19 กันยายน] บ้านหลังแรก ชง ครม.พรุ่งนี้ คืนภาษีไม่เกิน 10%
คลังชงบ้านหลังแรกเข้า ครม.พรุ่งนี้ ให้คนซื้อบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้าน ทยอยคืนภาษีไม่เกิน 10% ภายใน 5 ปี หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์ก่อน สั่งให้กระทรวงการคลังนำเงื่อนไขของมาตรการลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรกกลับไปพิจารณาใหม่ หลังจากมองว่า วงเงินหักลดหย่อนภาษีที่ให้กับผู้ซื้อบ้านราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทนั้นน้อยเกินไป ล่าสุด มีรายงานว่า กระทรวงการคลังได้พิจารณาเงื่อนไขใหม่เสร็จสิ้นแล้ว และเตรียมนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 20 กันยายนนี้ โดยแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำหรับเงื่อนไขใหม่ของมาตรการลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรกนั้น จะมีการปรับเพิ่มวงเงินหักลดหย่อนภาษีให้หักได้ไม่เกิน 10% ของราคาบ้านที่ไม่เกิน 5 ล้านบาท และทยอยหักเป็นระยะเวลา 5 ปี อย่างเช่น หากซื้อบ้านในราคา 5 ล้านบาท จะสามารถหักภาษีได้ไม่เกิน 5 แสนบาทภายในเวลา 5 ปี คิดเป็นได้เงินคืนปีละไม่เกิน 1 แสน แต่หากซื้อบ้านในราคา 1 ล้านบาท จะสามารถหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 1 แสนบาท หรือปีละไม่เกิน 2 หมื่นบาท ทั้งนี้ สำหรับเงื่อนไขอื่น ๆ ของมาตรการลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรกนั้น ผู้ซื้อบ้านจะต้องเป็นผู้ที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และเป็นผู้ซื้อบ้านหลังแรก ไม่รวมผู้ซื้อบ้านมือสอง หรือสร้างบ้านเอง สำหรับนโยบายนี้ ทางกรมสรรพากรประเมินว่าจะมีผลกระทบต่อรายได้ภาษีทั้งหมด (กรณีสูงสุด) ไม่เกิน 1,700 ล้านบาท [16 กันยายน] ซื้อบ้านหลังแรกได้ลดหย่อนภาษี3แสนบ./คน สรรพากรเคาะแล้ว ซื้อบ้านหลังแรก ได้ลดหย่อนภาษี 3 แสนบาท/คน 5 ปีละ ๆ 6 หมื่นบาท วงเงินไม่เกินหลังละ 3 ล้านบาท นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยความคืบหน้าโครงการบ้านหลังแรกว่า ในขณะนี้ ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ แล้ว โดยทางกรมสรรพากร จะมีการลดภาระให้ในรูปแบบการนำเงินที่ซื้อบ้าน มาเป็นส่วนลดในการหักลดหย่อนภาษีได้ 3 แสนบาทต่อราย โดยกำหนดราคาบ้าน ไม่เกินหลังละ 3 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เข้าโครงการสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ 5 ปี ในอัตราปีละ 6 หมื่นบาท นายสาธิต กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า เรื่องดังกล่าวนั้น จะมีการนำเสนอเข้าที่ประชุมผู้บริหารระดับสูงของทางกระทรวงการคลัง เพื่อให้ได้พิจารณาในเร็ว ๆ นี้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

1 ความคิดเห็น:

  1. อาจสงบสุขของพระเจ้าอยู่กับคุณ
    คุณจะเป็นนักธุรกิจหรือผู้หญิง? คุณอยู่ในใด ๆ
    ความเครียดทางการเงินหรือไม่หรือคุณต้องการเงินทุนที่จะเริ่มต้นขึ้น
    ธุรกิจของตัวเองของคุณ?
    ) ขยายตัวของธุรกิจสินเชื่อบุคคล
    B) ธุรกิจเริ่มต้นขึ้นและการศึกษา
    C) รวมหนี้
    ชื่อ: ..........................................
    ประเทศ: .........................................
    ที่อยู่: ..........................................
    สถานะ: .......................................
    เพศ: ................................................ ...
    อายุ ................................................. ....
    วงเงินกู้ที่จำเป็น: .........................
    เงินกู้ระยะเวลา: ...................................
    หมายเลขโทรศัพท์มือถือส่วนบุคคล: .......................
    รายได้รายเดือน: .....................................
    ขอขอบคุณและขอให้พระเจ้าคุ้มครอง
    อีเมล์: marycoleloanscompany3@gmail.com

    ตอบลบ

Block

Enter Block content here...


Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Etiam pharetra, tellus sit amet congue vulputate, nisi erat iaculis nibh, vitae feugiat sapien ante eget mauris.

New Block


ขับเคลื่อนโดย Blogger.